วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2555

Funky Burger




วงฟังกี้ เบอร์เกอร์

ค่ายอัพจี ในเครือแกรมมี่ เตรียมแจ้งเกิดศิลปินหน้าใหม่ในนาม “ฟังกี้ เบอร์เกอร์” (FUNKY BURGER) 5 หนุ่มจาก จ.ชลบุรี ที่มาพร้อมแนวเพลงฟังก์ ร็อก ในเพลงเร็วจังหวะสนุก ’ฆ่าเวลาหรือว่าคิดถึง“ ภายใต้คอนเซปต์ดนตรีมีสเต็ป แถมยังปล่อยมาพร้อมมิวสิกวิดีโอด้วย

แชมป์ (นักร้องนำ) เผยรายละเอียดว่า “สนุกมากครับ กับการถ่ายมิวสิกวิดีโอตัวแรกของพวกเรา บรรยากาศในการถ่ายทำตื่นเต้นมาก เพราะพวกเราไม่เคยที่จะเล่นดนตรีไปด้วย และร้องเพลงไปด้วย พร้อมเต้นอีกต่างหาก เป็นอะไรที่ท้าทายมาก แต่ก็มีความตั้งใจและพยายามจนทำให้งานสำเร็จได้ พวกเราเรียนเต้นมากันตั้ง 4 เดือนแล้วครับ กว่าจะถึงวันนี้ สนุกมาก มิวสิกฯเพลงนี้ได้ พี่ต่อ (แสนคม สมคิด) มากำกับฯให้ ทำให้ภาพของพวกเราออกมาดูดีมาก ส่วนเพลงของพวกเราก็มีให้ดาวน์โหลดกันแล้ว พร้อมทั้งฟังได้ทางคลื่นวิทยุทั่วประเทศ มิวสิกวิดีโอก็ติดตามได้ในรายการของแกรมมี่และแบง แชแนล ครับ ส่วนแฟนๆ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของพวกเราได้ที่ www.facebook.com/FunkyBurgerBand

The Richman Toy



วง The Richman Toy
สมาชิกปัจจุบัน
-วีรณัฐ ทิพยมณฑล (แจ๊ป) – กีตาร์, ร้องนำ
-กรณ์ พงศ์พิพัฒน์ (กรณ์) – กีตาร์
-อัคราวิชญ์ (ชยัญ) พิริโยดม (เช่) – เบส
-ปุรวิชญ์ ขาวลออ (เอี่ยว) – กลอง

สมาชิกในอดีต
-วสุ ปาลิโพธิ (กิ๊ป) – กีตาร์
-ทวีคูณ โคมินทร์ (เค) – กลอง

ผลงานอัลบั้ม
แดนสวรรค์คอยอยู่
- แดนสวรรค์คอยอยู่
-มนต์รักยาเสน่ห์
-ราชานักรัก
-สตรอเบอร์รี่เกิร์ล
-สาวน้อยคาราโอเกะ
-ร็อกสตาร์
-ฟลอร์ทองหล่อ
-สะดุดรัก
-ทุ่งดอกไม้บาน
-ม้าป่า
ลำนำสะดิ้งเลิฟยู
-ลำนำสะดิ้งเลิฟยู
-กระเป๋าแบนแฟนยิ้ม
-รักจริงผ่านจอ
-รอน้องจอดหัวใจ
-หนังซ้ำ
-กฎแห่งกรรม
-พลังวัยรุ่น
-เปิ๊ดสะก๊าด
-อ๊อด อ๊อด
-คนที่ห้า + Hidden Track ผู้ชนะที่พ่ายแพ้

ผลงานอื่นๆ
-เพลง “สาวรำวง” และ “ดาวเด่น” ในอัลบั้ม Showroom
-เพลง “คนใจง่าย” เป็นเพลง Cover ของไอซ์ ศรัณยู
- เพลง “ผู้ชนะที่พ่ายแพ้” แต่งขึ้นเนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง
-เพลง “แต่งงานกันเด้อ” feat. หม่ำ จ๊กมก เพลงประกอบภาพยนตร์ แหยม ยโสธร 2
-เพลง “ซุปเปอร์แฟน” เพลงประกอบภาพยนตร์ 8E88 แฟนลั้ลลา
-เพลง “หัวใจไม่กระดึ๊บ” เพลงประกอบภาพยนตร์ กระดึ๊บ
-มิวสิกวิดีโอ เพลง “ขอความสุขคืนกลับมา”
-Single เพลง “ซ่า ได้ อาย อด”

คอนเสิร์ต
-กระทิงแดง ภูมิใจเสนอ [V] The Richman Toy อ๊อดทะลุเป้า คอนเสิร์ตกลางแจ้ง แต่แสดงในร่ม

รางวัล
-รางวัลศิลปินกลุ่มยอดเยี่ยม คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 7
-รางวัลศิลปินกลุ่มยอดเยี่ยม สตาร์เอนเตอร์เทนเมนต์อวอร์ดส 2009

Room39



วงดนตรี Room39 เกิดจากนักดนตรีวง Mosquito Bite  ที่เล่นดนตรีในประเทศสหรัฐอเมริกา ประกอบด้วย ทอม อิศรา (ส้มฉุน) และ มน ชุติมน วิจิตรทฤษฎี นักร้องนำ, แว่นใหญ่ โอฬาร ชูใจ หนุ่มแว่นโต มือกีต้าร์มือฉมัง และเพื่อน ๆ อีกหลายคน ที่รวมตัวกันร้องเพลงในร้านอาหารไทย ชื่อว่า "เครื่องเทศ" เมืองแอล เอ  เกิดคิดสนุก ๆ อยากทำเพลงเล่นๆ แบบ ขำๆ ลง youtube เพราะมีความคิดว่าดนตรีไม่ได้จำกัดอยู่ในห้องอัด จึงรวมตัวกันในนาม "Room39" ซึ่งเป็นหมายเลขห้องของโอแป๊ก อพาร์ทเม้นเล็กๆ ที่พวกเขาผลิตผลงาน โดยผลงานของ Room39 ใน youtube ได้ร้องคัฟเวอร์เพลงของศิลปินดังหลายท่าน เช่น เพลง Lucky ของ Jason Mraz, เพลงเข้ากันไม่ได้ ของ Synkronize, เพลง Nothing on You ของ B.O.B และอีกหลายเพลง จนกระทั่งมีคนไทยกลุ่มหนึ่งไปพบคลิปของ Room39 ใน youtube เข้า และเอามาโพสต์บนเว็บไซต์แบ่งปันเพื่อนๆ  ด้วยน้ำเสียงเพราะ ๆ ของ 2 นักร้องนำของ ทอม อิศรา และ มน ชุติมน บวกกับเสียงกีต้าร์ฟังสบายหูของ แว่นใหญ่ โอฬาร และฝีมือการมิกซ์-ตัดต่อภาพ และเสียงของ โอแป๊ก บวร อภัยวงศ์ ทำให้กระแสการตอบรับคลิปของพวกเขาบน youtube ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ชาวเน็ตหลาย ๆ ท่าน ถึงกับเรียกร้องให้วง  "Room39" กลับมาออกอัลบั้มที่เมืองไทยเลยทีเดียว ล่าสุดสามสมาชิกของวง Room39 เซ็นสัญญาเข้ามาเป็นศิลปินเต็มตัวในสังกัด Loveis และ Room39 ได้ตระเวนออกโชว์ตัว สร้างกระแสฮือฮาอย่างมากมายในหมู่นักฟังเพลง ใครที่รอฟังเพลงของ Room39 ก็อดใจรอ เพราะตอนนี้พวกเขา Room39 กำลังทำซิงเกิลแรกร่วมกับ บอยด์ โกสิยพงษ์อยู่ ซึ่งเชื่อว่าคงได้ฟังกันเร็ว ๆ นี้ค่ะ หากเพื่อน ๆ คิดถึง Room39 ก็สามารถเข้าไปฟังเพลงของ Room39 ใน youtube ได้เลย อย่าลืมให้กำลังใจพวกเขา Room39 กันด้วยนะคะ ซิงเกิลแรกของวง Room39 คือเพลงหน่วง กับค่าย LOVEIS

ปั๊บ โปเตโต้



ชื่อ - สกุล:พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข
  • ปั๊บ
  • Friday, February 11, 2524
  • โสด
  • 31 ปี
  • 175 ซม.
  • 58 กก.
  • นักร้อง
  • การศึกษา

    • ปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ สาขาวิชาการโฆษณามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

    สิ่งที่ชื่นชอบ

    • สีที่ชอบ เหลือง , ครีม
    • แนวดนตรีที่ชอบ ฟังได้หมด แต่ที่ชอบที่สุดคือ ร็อค

    ศิลปินที่ชอบ

    • ศิลปินในดวงใจ Incubus

    นิสัยส่วนตัว

    • คติประจำใจ"การมีชีวิตอยู่บนโลก ต้องไม่โกหกความรู้สึกตัวเอง"

    รางวัล

    • เพลงยอดนิยมสุดซี้ดประจำปี เพลง รักแท้ ดูแลไม่ได้
    • อัลบั้มยอดเยี่ยมสุดซี้ดประจำปี อัลบั้ม Life
    • Top Award 2005 ศิลปินกลุ่มยอดฮิต
    • Gmember Award 2009 ศิลปินกลุ่มแห่งปี
    • Sudsapda Yang&Smart 2009 ศิลปินกลุ่มยอดนิยม
    • Gmember Award 2010 ศิลปินร็อคยอดนิยม
    • Gmember Award 2010 เพลงร็อคยอดนิยม (เพลงไม่รู้จะอธิบายยังไง)
    • Gmember Award 2010 มิวสิควิดีโอยอดนิยม (เพลงไม่รู้จะอธิบายยังไง)

    อาหารที่ชอบ

    • ทุกอย่าง (กินง่าย)

    KLEAR

    social network หาเพื่อนของคนไทย

    KLEAR คือ ความต้องการที่จะเป็นตัวแทนในการสื่อสาร ความจริงของมนุษย์  
    ในเรื่องความเปราะบางและหลากหลายของอารมณ์ ว่ามีทั้งความอ่อนแอ ท้อแท้ ผิดหวัง โศกเศร้า
    แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถเข้มแข็ง โกรธ และลุกขึ้นสู้จนถึงที่สุดได้เหมือนกัน โดยผ่านมุมมองของ
    ผู้หญิงคนหนึ่งที่ไร้การเสแสร้ง หรือ บิดเบือนความรู้สึกของตัวเองทั้งสิ้น คือมีทั้งความรุนแรง เข้มแข็ง
    ดุดัน แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อายที่จะแสดงออกถึงความอ่อนไหว หรือ อ่อนแอ ไม่เกรงกลัวการร้องไห้
    หรือกรีดร้องออกมาให้ทุกคนได้ยินมัน
    KLEAR คือ ใคร
    KLEAR คือ สี่คนรุ่นใหม่บนเส้นทางสายดนตรีที่มารวมกลุ่มกันโดยมีความฝันเป็นที่ตั้ง
    เริ่มต้นในปี 2545 จากการประกวดวงดนตรีในมหาวิทยาลัย KLEAR ผ่านการประกวดมาหลายเวที
    เช่น Bangkok Music Awards, Thailand University Music Awards หรือเวที GBOB ซึ่งในทุกเวที
    พวกเขาก็ได้คว้ารางวัลสำคัญ ๆ มากมาย รวมถึงการเข้าร่วมกิจกรรมบนเวทีของเทศกาลดนตรีต่าง ๆ
    ไม่ว่าจะเป็น Pattaya Music Festival, Fat Festival, Indy In Town เป็นต้น
    จนวันหนึ่ง ทั้งสี่คนก็ได้พบกับ ต้า จากวง PARADOX และก็ร่วมทำ DEMO อัลบั้มของ KLEAR
    โดย ต้า รับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์อัลบั้มนี้ และยังได้แนะนำวง KLEAR ให้เข้ามาคุยกับสังกัดจีนี่
    เร็คคอร์ด หลังจากนั้นไม่นาน KLEAR ก็เข้าเป็นศิลปินอย่างเต็มตัวภายใต้สักกัดจีนี่
    ภายในปี 2550 นี้เอง
    KLEAR ประกอบด้วย
    เกี้ยวเกล้า พูนชัย (แพท)  – ร้องนำ
     ณัฐวัฒน์ แสงวิจิตร (ณัฐ) – กีต้าร์
     คียาภัทร โพธิ์วงศ์ไพรเลิศ (คี ) – เบส
     นัฐ นิลวิเชียร  – กลอง
    KLEAR เปิดตัวอย่างเป็นทางการในฐานะศิลปินหน้าใหม่ของจีนี่ เร็คคอร์ด โดยเป็นวงเปิดให้กับ
    เวทีคอนเสิร์ต Bodyslam Save My Life เมื่อเดือนตุลาคม 2550 งานนั้นได้รับเสียงตอบรับจากแฟนเพลง
    อย่างอบอุ่น ด้วยน้ำเสียงของ แพท ที่สะกดคนทั้งฮอลล์ให้เคลิ้มไปกับบทเพลงของพวกเขา
    KLEAR เปิดตัวอย่างเป็นทางการในฐานะศิลปินหน้าใหม่ของจีนี่ เร็คคอร์ด โดยเป็นวงเปิดให้กับ
    เวทีคอนเสิร์ต Bodyslam Save My Life เมื่อเดือนตุลาคม 2550 งานนั้นได้รับเสียงตอบรับจากแฟนเพลง
    อย่างอบอุ่น ด้วยน้ำเสียงของ แพท ที่สะกดคนทั้งฮอลล์ให้เคลิ้มไปกับบทเพลงของพวกเขา
    แนวเพลงของ KLEAR
    เป็นการรวมหลาย ๆ แนวเข้าด้วยกัน เช่น เมโลดี้ที่เปล่งเสียงอย่างหม่นเศร้าและโหยหวน 
    มีกลิ่นไอของดนตรีแบบโกธิค (Gothic) แต่ในขณะเดียวกันบางเพลงออกเป็นแจ๊ส แต่ส่วนของกลอง
    กลับเป็นร็อกมัน ๆ ลักษณะเด่นคือแพทเทิร์นกลองของมือซ้าย (นัฐ – มือกลองเป็นคนถนัดซ้ายแต่
    สามารถตีได้ทั้ง 2 มือ) ทำให้เป็นไลน์กลองที่ไม่เหมือนใครและลอกเลียนแบบได้ยาก
    สำหรับไลน์เปียโน เป็นเปียโนในท่วงทำนองและกลิ่นอายดนตรีคลาสิคที่ผสมของเสียงซินธีไซเซอร์ด้วย
    ซึ่งเสียงซินธีไซเซอร์นี้มาจากเบสซึ่งทำให้ตัวเพลงมีความน่าสนใจอย่างมาก
    อัลบั้มแรก ชื่ออัลบั้ม stay alive - Klear (New Single)
    อัลบั้มนี้เป็นการทำงานของสมาชิกในวงทุกเพลงทั้งเนื้อร้องและทำนอง โดยมี ต้า พาราด็อกซ์
    ในฐานะโปรดิวเซอร์ มีการรวบรวมแนวดนตรีที่หลากหลาย โดยเฉพาะเสียงร้องของนักร้องนำที่สามารถ
    ร้องในสไตล์ป็อปหวาน ๆ ไปจนถึงการว้ากในแบบสครีมโม (Screamo) ดังนั้นจะมีการผสมผสานดนตรี
    หลายรูปแบบอย่างลงตัวทั้ง 11 เพลง
    ซิงเกิ้ลแรก ขอสักคน
    เพลงเปิดตัว จังหวะมัน ๆ กับเสียงร้องทรงพลังของแพท
    เนื้อหาบ่งบอกถึงการร้องขอใครสักคนที่จะมาเข้าใจ
    ในวันที่หม่นหมองไม่มีใคร
    ซิงเกิ้ลที่สอง หาย
    หนึ่งในเพลงป็อปที่เพราะที่สุดในรอบปีนี้ โดยแพท ได้โชว์เทคนิคการร้องที่เหลือเชื่อ
    โดยเฉพาะท่อนฮุคที่ร้องว่า “หาย” ที่อยากรู้ว่าเป็นอย่างไร ต้องลองไปฟังดู
    อัลบั้มที่สอง ชื่ออัลบั้ม "Brighter Day" บ่งบอกถึงความเปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น part ดนตรี เนื้อหาของเพลง และภาพลักษณ์ของวง

    ปาล์มมี่



    ชื่อจริง อีฟ ปานเจริญ
    ชื่อเล่น ชื่อจริง อีฟ ปานเจริญ
    ชื่อเล่น ปาล์มมี่
    วันเกิด 7 ส.ค. 2524
    ราศี กรกฏ
    การศึกษา High School ที่ Holy Cross College (Sydney, Australia)
    แนวเพลงโปรด โฟล์คร็อค
    ศินปินที่ชอบ Bic Runga นักร้องชาวมาเลย์
    ผลงานอื่นๆ แต่งเนื้อเพลง "ใจหายไปเลย" ของ มิสเตอร์ทีม เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ เป็นเพลง "ONE LOOK ONE TOUCH", ร้องคอรัสเพลง "รู้ตัวว่าดีไม่พอ" ของ "ตุ้ย ธีรภัทร์"
    แนวเพลง ป๊อปร็อค
    สังกัด อาร์พีจี


    ปาล์มมี่เป็นสาวลูกครึ่ง ไทย-เบลเยี่ยม เธอใช้ชีวิตเรียบง่าย สบายๆ เรียนอนุบาลจนถึง ม.2 ที่โรงเรียนพระแม่มารี (เซนต์หลุยส์) จนอายุได้ 12 ปี แล้วจึงเดินทางไปอยู่กับคุณแม่ที่ออสเตรเลีย
    ที่ออสเตรเลีย ปาล์มมี่ได้สัมผัสกับวัฒนธรรมของอีกโลกหนึ่ง ทั้งดนตรี ศิลปะ ซึ่งเข้ามามีผลต่อชีวิตเธออย่างมาก เธอชอบเรียน วิชาศิลปะ ที่โรงเรียน เวลาที่เหลือก็มักจะเข้าไปพิพิธภัณฑ์และ แกลอรี่เพื่อ ดูนิทรรศการศิลปะ นอกจากนั้นเธอยังชอบร้อง คาราโอเกะกับเพื่อนๆ และเดินเข้าออกร้านเทปทุกวัน เธอฟังเพลงทุกแนว และเริ่มสนใจ การร้องเพลง

    ปาล์มมี่เริ่มฝึกฝนการร้องเพลงด้วยตัวเอง อย่างจริงจังจน ดึกดื่น ทุกวัน เธอตัดสินใจเดินทางกลับมา หาโอกาสที่ แกรมมี่พร้อม เทปเดโม เพลงที่เธอแต่งเองร้องเอง และวันนั้นเอง เธอก็ได้เข้ามาเป็น ศิลปิน ในสังกัด อาร์พีจี เริ่มต้นด้วยการเขียนเนื้อเพลง "ใจหายไปเลย" ในเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ จากนั้นก็มาร้องคอรัส ในเพลง "รู้ตัวว่าดีไม่พอ" ของ "ตุ้ย" จากนั้นเดือน ธ.ค. เธอก็มีอัลบั้ม ของตัวเองออกมา

    เพลงในอัลบั้ม PALMY จะออกไปในทางป๊อปร็อค นำเสนอตัวตน ที่มีความคิดเป็นอิสระ หลงใหลกับความสุขทางดนตรี เน้นบรรยากาศ และรายละเอียดของอารมณ์ความรู้สึก และเพียงเวลาไม่นาน หลังจากปล่อยเพลง "อยากร้องดังดัง" ออกอากาศตามรายการวิทยุ ทุกๆคนก็ได้รู้จักความเป็นตัวตนของเธอ

    วันเกิด 7 ส.ค. 2524
    ราศี กรกฏ
    การศึกษา High School ที่ Holy Cross College (Sydney, Australia)
    แนวเพลงโปรด โฟล์คร็อค
    ศินปินที่ชอบ Bic Runga นักร้องชาวมาเลย์
    ผลงานอื่นๆ แต่งเนื้อเพลง "ใจหายไปเลย" ของ มิสเตอร์ทีม เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ เป็นเพลง "ONE LOOK ONE TOUCH", ร้องคอรัสเพลง "รู้ตัวว่าดีไม่พอ" ของ "ตุ้ย ธีรภัทร์"
    แนวเพลง ป๊อปร็อค
    สังกัด อาร์พีจี


    ปาล์มมี่เป็นสาวลูกครึ่ง ไทย-เบลเยี่ยม เธอใช้ชีวิตเรียบง่าย สบายๆ เรียนอนุบาลจนถึง ม.2 ที่โรงเรียนพระแม่มารี (เซนต์หลุยส์) จนอายุได้ 12 ปี แล้วจึงเดินทางไปอยู่กับคุณแม่ที่ออสเตรเลีย
    ที่ออสเตรเลีย ปาล์มมี่ได้สัมผัสกับวัฒนธรรมของอีกโลกหนึ่ง ทั้งดนตรี ศิลปะ ซึ่งเข้ามามีผลต่อชีวิตเธออย่างมาก เธอชอบเรียน วิชาศิลปะ ที่โรงเรียน เวลาที่เหลือก็มักจะเข้าไปพิพิธภัณฑ์และ แกลอรี่เพื่อ ดูนิทรรศการศิลปะ นอกจากนั้นเธอยังชอบร้อง คาราโอเกะกับเพื่อนๆ และเดินเข้าออกร้านเทปทุกวัน เธอฟังเพลงทุกแนว และเริ่มสนใจ การร้องเพลง

    ปาล์มมี่เริ่มฝึกฝนการร้องเพลงด้วยตัวเอง อย่างจริงจังจน ดึกดื่น ทุกวัน เธอตัดสินใจเดินทางกลับมา หาโอกาสที่ แกรมมี่พร้อม เทปเดโม เพลงที่เธอแต่งเองร้องเอง และวันนั้นเอง เธอก็ได้เข้ามาเป็น ศิลปิน ในสังกัด อาร์พีจี เริ่มต้นด้วยการเขียนเนื้อเพลง "ใจหายไปเลย" ในเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ จากนั้นก็มาร้องคอรัส ในเพลง "รู้ตัวว่าดีไม่พอ" ของ "ตุ้ย" จากนั้นเดือน ธ.ค. เธอก็มีอัลบั้ม ของตัวเองออกมา

    เพลงในอัลบั้ม PALMY จะออกไปในทางป๊อปร็อค นำเสนอตัวตน ที่มีความคิดเป็นอิสระ หลงใหลกับความสุขทางดนตรี เน้นบรรยากาศ และรายละเอียดของอารมณ์ความรู้สึก และเพียงเวลาไม่นาน หลังจากปล่อยเพลง "อยากร้องดังดัง" ออกอากาศตามรายการวิทยุ ทุกๆคนก็ได้รู้จักความเป็นตัวตนของเธอ

    No More Tear


    [พลุ.jpg]
    สมาชิกปัจจุบัน
    -นางสาว ไปรยา มาลาศรี (ฟักแฟง) ตำแหน่ง นักร้องนำ,กีตาร์
    -นาย เชาว์วรรธน์ อุปนันท์ (ชาย) ตำแหน่ง กีตาร์
    -นาย สุทธิพล บัวอนนท์ (ไอซ์) ตำแหน่ง กลอง
    -นาย จุติ รุ่งเรื่องระยับกุล (เต้) ตำแหน่ง เบส

    อดีตสมาชิก
    -เติ้ล
    -เฮง
    -นิค
    -ชิตกร ปัญญาปัตโชโต (เม้ง)

    ผลงานเพลง
    -อัลบัม Yellow Light
    *หัวใจหมดแรง
    *ฉันเป็น DJ. ให้เธอ
    *ล่องหน
    *ระหว่างรอ
    *No way!
    *Somewhere
    *ไม่กอดเธอไว้
    *รักเคยดีกว่านี้
    *Yellow Light
    * ใครจะทนก็ทน
    *มากมาย

    -อัลบั้ม Play (พ.ศ. 2552)
    *บูมเมอแรง (ธงไชย แมคอินไตย์)

    -New Single พ.ศ. 2554
    *รู้สึกดี
    *รู้สึกดี (Acoustic Version)
    *เพลงที่ฉันไม่ได้แต่ง – เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง SuckSeed ห่วยขั้นเทพ

    -New Single พ.ศ. 2555
    *ความพยายาม

    งานคอนเสิร์ต
    -Full metal romance 3
    -Music express ถึง 2 ครั้ง
    -กิจกรรมของToyota ณ ตึกToyota @Saim
    -YOS fest 2
    -Stop sencership
    -กิจกรรมของ AIS
    - อ๊าก ว๊าก จ๊าก ครั้งที่ 3
    -Rock and Roll 101 ฉลองครบรอบของ Rock pub

    ดา เอ็นโดรฟิน


    ดา เอ็นโดรฟิน



    : ธนิดา ธรรมวิมล
    : ดา เอ็นโดรฟิน
    สังกัด : GRAMMY
    : ดา
    : 49 ซม.
    : 163 กก.
    : 01 ก.ย. 2529
    การศึกษา : พาณิชยการราชดำเนิน
    งานอดิเรก : ฟังเพลง, งานศิลปะ, เที่ยว
    เครื่องดนตรีที่เล่นได้ : กีตาร์, เบส, คีย์บอร์ด
    อาหารโปรด : อาหารอีสาน (ส้มตำ, ไก่ย่าง)
    ผลงาน
    ผลงานร่วมกับวงเอ็นโดรฟิน
    -พริก
    -สักวา 49
    ผลงานเดี่ยว
    -ภาพลวงตา
    -ซาวด์ อะเบาท์



    ผลงานที่สร้างชื่อ
    เพลงดังอย่างเพลง "เพื่อนสนิท"
    ผลงานเดี่ยวชุดแรกชื่อชุด ภาพลวงตา ออกวางขายเดือนมกราคม 2550 มีเพลงดังอย่าง "คืนข้ามปี" และ "ภาพลวงตา" และหลังจากนั้นกับผลงานชุดที่ 2 คือ ซาวด์ อะเบาท์ (Sound about) ออกวางขายเมื่อเดือน มกราคม 2551 มีเพลงดังอย่างเพลง "ได้ยินไหม"
    รางวัลที่ได้รับ
    - ดาได้รับรางวัลจาก สตาร์เอนเตอร์เทนเมนต์อวอร์ด สาขานักร้องหญิงยอดนิยม ดา เอ็นโดรฟิน จากอัลบัม ภาพลวงตา
    - ได้รับรางวัลนักร้องไทย-สากล หญิงยอดนิยม จากสยามดารา สตาร์ ปาร์ตี้ 2008

    Musketeers


    วง MUSKETEERS (มัสคีเทียร์)
    สมาชิก
    ชาครีย์  ลาภบุญเรือง     “เท็น”   ร้องนำ
    สรรวิช   หวานสนิท       “ด๋อย”     เบส 
    ภาคภูมิ  นิ่มละมัย         “พู”      กีต้าร์
    รวิน       มิตรจิตรานนท์ “บิ๊ก”     กีต้าร์
    เอกพจน์  อิ่มสำราญ       “โจ้”      กลอง

            MUSKETEERS คือ วงดนตรีโมเดิร์นร็อคจากจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้รับอิทธิพลและมีกลิ่นอายมาจากดนตรีฝั่งอังกฤษ โดยจริงๆ แล้วสมาชิกแต่ละคนจะมีแนวทางที่แตกต่างกันออกไป แต่กลับเป็นข้อดีที่ทำให้จุดเด่นของแต่ละคนผลิตออกมาเป็นเพลงที่มีลายมือของวงค่อนข้างชัดเจน  ด้วยเมโลดี้ที่ไพเราะ ติดหู กับดนตรีหลากหลายอารมณ์ บวกกับเนื้อหาเท่ห์ๆ จากวิธีคิดของพวกเขา การรวมตัวของเริ่มจากการที่ทุกคนชอบนัดซ้อมดนตรีหลังเลิกเรียนด้วยกันเป็นประจำ และเริ่มเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากเวทีต่างๆ อาทิ งาน Hunger Free Music Festival ได้รับรางวัล เนื้อเพลงยอดเยี่ยม และล่าสุดกับตัวแทนภาคเหนือ และรางวัลชมเชย จากงาน Believe Audition Day 2007
            มุมมองในการแต่งเพลง  เป็นมุมมองเรื่องราวต่างๆ รอบๆ ตัว และได้หยิบยกมาเขียนเป็นเพลง โดยเริ่มจาก บิ๊กและพุ จะเป็นผู้แต่งดนตรีขึ้นมาก่อน ส่นเท็นจะเขียนเนื้อร้อง โดยจับอารมณ์ของดนตรี ถึงจะถ่ายทอดออกมาเป็นเพลง เพลงหนึ่ง  เนื้อเพลงจะฟังง่าย เรื่องราวไม่ซับซ้อน บางเพลงอาจจะฟังแล้วเหมือนฟังนิทานสักเรื่องหนึ่ง  ซึ่งถ่ายทอดผ่านดนตรี ของ MUSKETEERS

    วันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2555

    คำยินดี

    สุดท้ายก็ต้องยอม

    one more night

    วินาที

    เหตุผลข้อเดียว

    เคลียร์ไม่จบ

    วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2555

    Bodyslam


    บอดี้สแลม (อังกฤษ: Bodyslam) เป็นวงดนตรีร็อกที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย สมาชิกวงที่เป็นที่รู้จักกันดีจากวงนี้คือนักร้องนำของวง อาทิวราห์ คงมาลัย (ตูน) บอดี้สแลมได้ออกอัลบั้มล่าสุดเมื่อปี พ.ศ. 2553 ใช้ชื่ออัลบั้มว่า “คราม” ทั้งนี้เพลงส่วนใหญ่ได้อิทธิพลมาจากดนตรีร็อกจากฝั่งสหรัฐอเมริกาในยุคต้น 90 ผสมผสานกับดนตรีแนวโปรเกรสซีฟร็อก
    ประวัติ
    บอดี้สแลม มีชื่อวงเดิมว่า ละอ่อน โดยมีสมาชิกจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ทั้งหมด 6 คน โดยในปี พ.ศ. 2539 ได้เข้าประกวดวงดนตรี ประเภทมัธยมศึกษาของ คลื่นวิทยุHot Wave ในงาน Hot Wave Music Awards และ ได้รางวัลชนะเลิศ ทำให้วงละอ่อนได้รับการเซ็นสัญญาเป็นศิลปินในสังกัด มิวสิกบั๊กส์ โดยออกอัลบั้มแรกและอัลบั้มที่สองแล้วจึงแยกวง
    ภายหลังในปี พ.ศ. 2545 ทางสมาชิกเก่าของวงละอ่อน 3 คน ได้มีการรวมวงใหม่อีกครั้งภายใต้การดูแลของทีม Mango Team และ ออกสตูดิโออัลบั้มแรกภายใต้ชื่อของวง Bodyslam โดยที่อัลบั้มมีชื่อว่า Bodyslam โดยที่เพลงที่ประสบความสำเร็จคือเพลง“งมงาย” และเพลงฮิตอื่นๆในอัลบั้ม เช่น สักวันฉันจะดีพอ,ทางของฉัน ฝันของเธอ,ย้ำ,และ อากาศ ทำให้วงบอดี้แสลม เริ่มเป็นที่รู้จักทั่วประเทศในอัลบั้มแรก
    ต่อมาในปี พ.ศ. 2546 ผลงานสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 2 อัลบั้ม Drive ก็ได้ออกมาวางจำหน่ายโดยที่มีเพลง “ความซื่อสัตย์”และ”ปลายทาง” ประสบความสำเร็จอีกครั้ง โดยที่ หลังจากออกอัลบั้ม Drive เสร็จสิ้นแล้ว พวกเขาก็ออกจากค่ายมิวสิกบั๊กส์และเซ็นต์สัญญากับ จีนี่ เรคอร์ด ซึ่งอยู่ในสังกัด จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ซึ่งเป็นสังกัดเดียวกับศิลปินรุ่นพี่วงบิ๊กแอส (BIG ASS) และได้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในวงเกิดขึ้นเมื่อ เภา-รัฐพล พรรณเชษฐ์ มือกีตาร์ของวงก็ได้ขอแยกตัวออกไปทำอัลบั้มเดี่ยว (ในชื่อ Present Perfect) สังกัด ค่ายสนามหลวง
    อัลบั้ม Believe (พ.ศ. 2548) ทางวงได้หาสมาชิกใหม่เพื่อมาทำสตูดิโออัลบั้มใหม่ โดยที่มีสมาชิกใหม่เพิ่มเข้ามาคือ ยอด-ธนชัย ตันตระกูล มือกีตาร์ที่เคยเป็นนักดนตรีแบ็คอัพให้กับหลายศิลปิน ในตำแหน่งมือกีตาร์ กับ ชัช-สุชัฒติ จั่นอี๊ด มือกลองที่เคยแบ็คอัพ ให้กับ BODYSLAM มาตั้งแต่อัลบั้มแรก โดยที่หลังจากได้สมาชิกครบแล้ว พวกเขาก็ออกสตูดิโออัลบั้มใหม่ ในชื่อว่า Believe เปิดตัวด้วยซิงเกิ้ลแรกกับเพลง “ขอบฟ้า” ได้รับความสำเร็จเป็นอย่างดี และมีอีกหลายเพลงในอัลบั้มที่ได้รับความนิยม เช่น “ความรักทำให้คนตาบอด” “พูดในใจ” “คนที่ถูกรัก” และเพลงได้มีแขกรับเชิญพิเศษ “แอ๊ด คาราบาว” ในเพลง “ความเชื่อ” ยังมีเพลงอื่นๆ ที่นิยมอีก อาทิ “ห้ามใจ” “รักก็เป็นอย่างนี้”
    อัลบั้ม Save My Life (พ.ศ. 2550) เพลงเปิดตัวเพลงแรกของสตูดิโออัลบั้มนี้ คือเพลง “ยาพิษ” เมื่อออกสู่ผู้ฟัง ก็ได้รับการตอบรับไม่น้อย เนื่องจากเนื้อหาและความหนักหน่วงทางดนตรีที่เพิ่มขึ้นมาก (มีดนตรีแนว Alternative ให้เห็นอย่างเด่นชัด) อาจจะรู้สึกได้ว่าในสตูดิโออัลบั้มนี้ แนวทางดนตรีของทางวงได้มีการเปลี่ยนแนวไป โดยเพลงอื่นๆในอัลบั้มที่เป็นที่นิยมก็มีหลายๆเพลงเช่น ‘ยิ่งรู้ยิ่งไม่เข้าใจ,อกหัก,นาฬิกาตาย’ ในอัลบั้มนี้ ตูนได้แต่งเพลงเองสองเพลงคือเพลง แค่หลับตา ซึ่งเพลงนี้ตูนได้ร้องคู่กับปนัดดา เรืองวุฒิ และเพลงขอบคุณน้ำตา และอีกเพลงที่ตูนแต่งเพลงร่วมกับ ขจรเดช พรมรักษา หรือ กบ Big Ass โปรดิวเซอร์ก็คือเพลง ยาพิษ และเป็นเกียรติของวง ที่เพลง เสี้ยววินาที ถูกใช้เป็นเพลงประกอบโฆษณา 24thSea Games 2007 Information Center Nakhon Ratchasima THAILAND
    อัลบั้ม Project “PLAY” (พ.ศ. 2552) เป็น อัลบั้มพิเศษของทาง Gmm Grammy ที่จัดขึ้นมาเพื่อฉลอง 25 Gmm Grammy โดยอัลบั้มนี้จะอยู่ในหมวดของ Rock โดยให้แต่ละศิลปินได้เลือกเพลงเก่าของตำนานของ Gmm Grammy มา Cover ใหม่ ให้เป็นแนวของศิลปินเอง โดยทางวงได้เลือกเพลง เสียดาย ของ ธงไชย แมคอินไตย์
    อัลบั้ม คราม (พ.ศ. 2553) สตูดิโออัลบั้ม ลำดับที่ 5 ของบอดี้แสลม หลังจากที่ ตูน นักร้องนำได้ลาสิกขาบทออกมา โดยการเปิดตัวซิงเกิ้ลใหม่ในสตูดิโออัลบั้มนี้ เพลง “คราม” ซึ่งมาพร้อมกับความแปลกใหม่ ในการใช้ซินธิไซเซอร์ ผสมลงไปในเพลงด้วย ตามด้วยซิงเกิ้ลที่ 2 อย่างเพลง“ความรัก” ซึ่งกลายเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมสูงสุดของอัลบั้มนี้ และมียอดการดาวน์โหลดสูงสุด ต่อมาในช่วงกลางปี ก็ได้ปล่อยเพลง “คิดฮอด” เพลงที่สร้างความแปลกใหม่ให้วงการเพลงร็อกไทย ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่ทางวง ได้นำเอาทำนองแบบหมอลำเข้ามาผสมในเพลงด้วย โดยได้เชิญ ศิริพร อำไพพงษ์ มาช่วยกันแต่งเนื้อใส่ในเพลงร็อกสไตล์โมเดิร์นที่มีกลิ่นอายของหมอลำจากพวกเค้า สร้างกระแสให้เพลงนี้เป็นที่พูดถึงมากในชุดนี้ก็ว่าได้ และยังมีเพลงในอัลบั้มที่เป็นที่นิยม อย่าง “เปราะบาง” และ “แสงสุดท้าย”
    สมาชิกของวง
    นักร้อง-นักดนตรี
    • อาทิวราห์ คงมาลัย (ตูน) – ร้องนำ,กีตาร์
    • ธนดล ช้างเสวก (ปิ๊ด) – เบส, คอรัส
    • ธนชัย ตันตระกูล (ยอด) – กีตาร์
    • สุชัฒติ จั่นอี๊ด (ชัช) – กลอง (อัลบั้มที่ 1 และ 2 เป็นมือกลองแบ็คอัพ และตั้งแต่อัลบั้มที่ 3 จนถึงปัจจุบัน ได้ร่วมเป็นสมาชิกของวง)
    • โอม เปล่งขำ (โอม) – คีย์บอร์ด (คีย์บอร์ดในอัลบั้ม 4 และ 5 พาทของดนตรีมีอิเล็กทรอนิกส์เยอะขึ้นจึงได้ชวนมาร่วมงานเป็นแบ็คด้วย)

    Buddha Bless

    mon-zond-Buddha-Bless
    บุดด้า เบลส (อังกฤษ: Buddha Bless) หรือ พระพุทธเจ้าอวยพร จากกลุ่มก้านคอคลับ ประกอบด้วยสมาชิก อุ๋ย–นที เอกวิจิตร, เอ็ม–กิตติพงษ์ คำสาตร์ และโต้ง–สุรนันต์ ชุ่มธาราธร มีแนวเพลงเป็นเร้กเก้แดนซ์ฮอลล์ มีสัญลักษณ์ประจำตัวที่นอกจากจะเป็นไฟเขียว ไฟแดง ไฟเหลือง ด้วยเนื้อหาที่อิงธรรมะช่วยส่งเสริมสร้างสรรค์สังคมด้วยหลักคำสอนในพระพุทธศาสนา สภาองค์กรพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยจึงมอบรางวัล “ต้นโพธิ์ทอง” ให้แก่สามหนุ่ม โดยเพลงที่ทำให้ได้รับรางวัลคือ ‘ใจเย็น’ ‘ลำยอง’ ‘ชิงหมาเกิด’ และ ‘ยาเสพติด’
    ประวัติ
    ทั้ง 3 คนเริ่มพบกัน เริ่มจาก อุ๋ยกับโต้งคือสองจากห้าสมาชิก AYM ทำเพลงฮิปฮอปใต้ดิน แต่ตอนหลังแยกตัวออกมา โดยอุ๋ยเล่าว่า "ตอนแรกผมอยู่เอวายเอ็ม มีท้อป ที่ตอนนี้ทำดับเบิ้ลซิกส์ทูเป็นตัวตั้งตัวตี เราทำเพลงกันเองที่บ้าน วันหนึ่งท้อปเขาขึ้นไปร้องฟรีไมค์ที่ผับ พี่โจ้ (โจอี้ บอย) เห็นก็ชวนพวกเรามาร่วมงาน" ในอัลบั้มชุดนี้ทั้งสามคนช่วยกันแต่งเนื้อ โดยมีสไปดามังกี้ (เมธี ขวัญบุญจัน) เป็นโปรดิวเซอร์และทำดนตรีให้ มีเพลงดังอย่าง Fire,ชิงหมาเกิด และลำยองเป็นต้น
    บุดด้า เบลสยังมีผลงานร่วมกับศิลปินอื่นอย่าง ซาซ่า เสนาหอย และยังมีผลงานรวมในอัลบั้ม ก้านคอคลับ 2 มีเพลงดังอย่าง Bump Boom Boom หลังจากนั้นมีผลงานอัลบั้มชุดที่ 2 ที่ชื่อ กัด มันส์ ดุ มีเพลงเปิดตัวคือ "ดุ๊กดิ๊ก" อัลบั้มนี้นี้ กุ๊ยอุ๋ย รับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ และทำดนตรีรวมไปถึงเขียนเนื้อร้องเองเกือบทั้งหมด โดยสมาชิกที่เหลือโก๋เอ็ม และ เก๋าโต้ง ยังคงรับหน้าที่ช่วยกันเขียนเนื้อร้องเช่นเดิม
    สมาชิกวง
    อุ๋ย 
    อุ๋ย หรือกุ้ยอุ๋ย คือ อดีตเซลขายรถที่หันหลังจากงานขาย เพื่อหันหน้าโกยประสบการณ์ตามฝัน เคยฝากผลงานเพลงให้ได้เห็นหน้าคาดตากันมาบ้างแล้ว จากพระเอกมิวสิกวิดีโอ เพลง “ ไม่ใช่ผู้ชาย” ของดูบาดู และยังฝากผลงานเสียงในการ Featuring ให้กับศิลปิน สิงห์เหนือเสือใต้ และส้ม อมราอีกด้วย
    เอ็ม 
    เอ็ม หรือ โก๋เอ็ม ทำงานเกี่ยวกับศิลปะที่เจ้าตัวบอกว่าส่วนใหญ่คือการเพ้นต์กำแพงตามงานจ้างหรืออีเวนต์ที่ต้องการบรรยากาศแบบฮิปฮอปซีน เคยฝากเสียงร้องไว้ในอัลบั้มของ ส้ม อมราแล้วด้วยเช่นกัน
    โต้ง 
    โต้งหรือเก๋าโต้งคือ หนุ่มโปรดิวเซอร์และพิธีกรยูบีซี มีความเก๋าเฉพาะตัวทางด้านศิลปะป้องกันตัว เคยเป็นอาจารย์สอนเทควันโด ปัจจุบันสอนคาโปเอร่า(ศิลปะป้องกันตัวแขนงหนึ่ง) ด้วย มีดีกรีเป็นถึงแชมป์เทควันโดเกาะเหนือของนิวซีแลนด์ และเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งชมรมคาโปเอร่า แห่งประเทศไทย
    ผลงานอัลบั้มที่ผ่านมา
    อัลบั้มเพลง
    • ไฟเขียว ไฟแดง
    • กัด มันส์ ดุ
    • ปักตะไคร้
    • Buddha Bless You
    เพลงประกอบละคร/ภาพยนตร์
    • ผู้ใหญ่ลีกับนางมา (พี่ผู้ใหญ่)
    • จีจ้า ดื้อสวยดุ (ยังไหว)
    งานแสดง
    • หลวงพี่เท่ง 3 รุ่นฮาเขย่าโลก
    • กองพันครึกครื้น ท.ทหารคึกคัก
    • หลวงพี่เท่ง 2 รุ่นฮาร่ำรวย

    25 hours

    25 hours
    “25 hours” (ทเวนตี้ไฟว์ อาวเวอร์ส)
    สังกัด: บีลีฟ เรคคอร์ด (Believe Records)
    แนวดนตรี: โมเดิร์นร๊อค (Modern Rock)

    สมาชิกในวง:
    “แหลม” สมพล รุ่งพาณิชย์ (ร้องนำ)
    “โฟร์” ประทีป สิริอิสสระนันท์ (กีต้าร์)
    “ปู๋” ปิยะวัฒน์ มีเครือ (กีตาร์)
    “บัง” เอกศิริ กำบังภัย (เบส)
    “จ๊อบ” กฤตพงษ์ สกุลนามอเนก (กลอง)

    “25 hours” การรวมกันของคนดนตรี ที่มีสไตล์แตกต่างกัน ผสมผสานจนเกิดเป็นแนวดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์ของวง ด้วยดนตรีเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเมื่อมีเวลาว่างจากงานประจำที่ต่างก็อยู่เบื้องหลังบทเพลงดีๆมากมายก็มาร่วมกัน สร้างงานดนตรีในสไตล์ของตัวเอง

    “25 hours” คือ ชั่วโมงที่ 25 ซึ่งแล้วแต่ผู้คนจะใส่ความหมายลงไป ในความเป็นจริงเวลาตลอดทั้งวันถูกจับจองด้วยกิจกรรมประจำวันมากมาย แต่หากมีอีกสักหนึ่งชั่วโมงที่ 25 เป็นเวลาที่จะใส่สิ่งที่เรารักที่จะทำ ก็สามารถเปลี่ยนให้วันนั้นเป็นวันที่มีความหมาย

    และสำหรับชั่วโมงที่ 25 ของพวกเขาคือ การสร้างสรรค์ดนตรี การเขียนเพลงจาก 25 hours จะบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาต่างๆ ของชีวิต ทั้งสุขและทุกข์ เหงาหรือสนุกสนาน

    ซึ่งทุกเรื่องราวนั้นล้วนเป็นจุดเริ่มที่สำคัญ ในการสร้างงานเพลงในแบบของ 25 hours ให้ผู้ฟังมีดนตรีของพวกเขา เข้าไปอยู่ในชั่วโมงที่ 25 ของทุกคน

    อัลบั้นเต็ม: 25 hours

    Single 1 เพลง วันดีดี (Thing’s Beautiful)
    Single 2 เพลง สัญญา
    Single 3 เพลง ถามจันทร์
    Single 4 เพลง ทำได้เพียง
    Single 5 เพลง ในวันที่เขาต้องไป


    หลังจากที่ปล่อยซิงเกิลอย่าง “ถามจันทร์” ที่ทำให้แฟนเพลงได้รู้สึกถึงความอบอุ่นในแบบ 25 hours กันไปแล้ว คราวนี้ ซิงเกิลใหม่ของ 25 hours “ทำได้เพียง” จะพูดถึงความรู้สึกที่หลงเหลืออยู่ หลังจากที่ช่วงเวลาความรักได้ผ่านพ้นไปช่วงเวลาหลังจากที่บทบาทของความรักได้ยุติลง ความรู้สึกของเราอาจจะมีแต่เพียงความเจ็บปวด ความโกรธ ความเสียใจ แต่เมื่อเวลาได้พ้นผ่าน จนบาดแผลในจิตใจได้สมานจนหายดี ตอนนั้นเองที่จะทำให้เราได้มองความรักที่ผ่านพ้นอย่างเข้าใจ และความรู้สึกเดียวที่หลงเหลืออยู่ในตอนนั้น คือ ความคิดถึง...เท่านั้นเอง

    Paradox

    PARADOX มอบความสุขส่งท้ายปี วางแผงอัลบั้มใหม่ “Daydreamer”1 ประวัติวง พาราด็อกซ์ (Paradox)
    พาราด็อกซ์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2537 โดย อิทธิพงศ์ กฤดากร ณ อยุธยา หรือ ต้า (ร้องนำ/กีต้าร์) ซึ่งเป็นนิสิตจากคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีความคิดที่จะตั้งวงดนตรีเพื่อร่วมกิจกรรมภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในฐานะนักศึกษาปีที่ 1 จึงได้ชวน จักรพงศ์ สิริริน หรือ สอง (เบส) เข้ามาร่วมวง โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากวงโมเดิร์นด็อก ซึ่งเป็นวงดนตรีแนวอัลเทอร์เนทีฟที่มีชื่อเสียงอีกวงหนึ่ง ทั้งสองคนได้ร่วมกันแต่งเพลงแนวลูกทุ่งชื่อเพลง “โรงหนังเก่า” ขึ้นเป็นเพลงแรก ต่อมาก็ได้ พรภัฏ ชีวีวัฒน์ หรือ โน้ต นิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้ามาร่วมวงในตำแหน่งมือกลอง
    พาราด็อกซ์ เป็นวงดนตรีชาวไทย เริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ. 2537 โดยกลุ่มนิสิตจากคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นวงที่มีเอกลักษณ์ทางการแสดงสด โดยจะมีการแสดงประกอบการเล่นดนตรี เช่น พ่นไฟ ,สาดน้ำ ,โยนลูกโป่งใส่คนดู ซึ่งแสดงโดยฝ่ายในวงที่เรียกว่า “โจ๊กเกอร์-ว๊ากเกอร์” รับเชิญหลายคน โดย โจ๊กเกอร์-ว๊ากเกอร์หลักของทางวงคือ อ๊อฟ และ เก่ง จะทำหน้าที่ร้องประสานเสียงบนเวทีให้อีกด้วย
    สมาชิก
    อิทธิพงศ์ กฤดากร ณ อยุธยา (ต้า) ร้องนำ / กีตาร์
    ขจัดภัย กาญจนาภา (บิ๊ก) กีตาร์
    จักรพงศ์ สิริริน (สอง) เบส
    เสรฐพร กฤดากร ณ อยุธยา (โจอี้) กลอง
    ชาญณรงค์ วังเย็น (อ๊อฟ) ว๊ากเกอร์
    นัทธา กมลรัตนกุล (เก่ง) โจ๊กเกอร์
    อดีตสมาชิก
    พรภัฏ ชีวีวัฒน์ (โน้ต) กลอง