วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2555

Bodyslam


บอดี้สแลม (อังกฤษ: Bodyslam) เป็นวงดนตรีร็อกที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย สมาชิกวงที่เป็นที่รู้จักกันดีจากวงนี้คือนักร้องนำของวง อาทิวราห์ คงมาลัย (ตูน) บอดี้สแลมได้ออกอัลบั้มล่าสุดเมื่อปี พ.ศ. 2553 ใช้ชื่ออัลบั้มว่า “คราม” ทั้งนี้เพลงส่วนใหญ่ได้อิทธิพลมาจากดนตรีร็อกจากฝั่งสหรัฐอเมริกาในยุคต้น 90 ผสมผสานกับดนตรีแนวโปรเกรสซีฟร็อก
ประวัติ
บอดี้สแลม มีชื่อวงเดิมว่า ละอ่อน โดยมีสมาชิกจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ทั้งหมด 6 คน โดยในปี พ.ศ. 2539 ได้เข้าประกวดวงดนตรี ประเภทมัธยมศึกษาของ คลื่นวิทยุHot Wave ในงาน Hot Wave Music Awards และ ได้รางวัลชนะเลิศ ทำให้วงละอ่อนได้รับการเซ็นสัญญาเป็นศิลปินในสังกัด มิวสิกบั๊กส์ โดยออกอัลบั้มแรกและอัลบั้มที่สองแล้วจึงแยกวง
ภายหลังในปี พ.ศ. 2545 ทางสมาชิกเก่าของวงละอ่อน 3 คน ได้มีการรวมวงใหม่อีกครั้งภายใต้การดูแลของทีม Mango Team และ ออกสตูดิโออัลบั้มแรกภายใต้ชื่อของวง Bodyslam โดยที่อัลบั้มมีชื่อว่า Bodyslam โดยที่เพลงที่ประสบความสำเร็จคือเพลง“งมงาย” และเพลงฮิตอื่นๆในอัลบั้ม เช่น สักวันฉันจะดีพอ,ทางของฉัน ฝันของเธอ,ย้ำ,และ อากาศ ทำให้วงบอดี้แสลม เริ่มเป็นที่รู้จักทั่วประเทศในอัลบั้มแรก
ต่อมาในปี พ.ศ. 2546 ผลงานสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 2 อัลบั้ม Drive ก็ได้ออกมาวางจำหน่ายโดยที่มีเพลง “ความซื่อสัตย์”และ”ปลายทาง” ประสบความสำเร็จอีกครั้ง โดยที่ หลังจากออกอัลบั้ม Drive เสร็จสิ้นแล้ว พวกเขาก็ออกจากค่ายมิวสิกบั๊กส์และเซ็นต์สัญญากับ จีนี่ เรคอร์ด ซึ่งอยู่ในสังกัด จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ซึ่งเป็นสังกัดเดียวกับศิลปินรุ่นพี่วงบิ๊กแอส (BIG ASS) และได้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในวงเกิดขึ้นเมื่อ เภา-รัฐพล พรรณเชษฐ์ มือกีตาร์ของวงก็ได้ขอแยกตัวออกไปทำอัลบั้มเดี่ยว (ในชื่อ Present Perfect) สังกัด ค่ายสนามหลวง
อัลบั้ม Believe (พ.ศ. 2548) ทางวงได้หาสมาชิกใหม่เพื่อมาทำสตูดิโออัลบั้มใหม่ โดยที่มีสมาชิกใหม่เพิ่มเข้ามาคือ ยอด-ธนชัย ตันตระกูล มือกีตาร์ที่เคยเป็นนักดนตรีแบ็คอัพให้กับหลายศิลปิน ในตำแหน่งมือกีตาร์ กับ ชัช-สุชัฒติ จั่นอี๊ด มือกลองที่เคยแบ็คอัพ ให้กับ BODYSLAM มาตั้งแต่อัลบั้มแรก โดยที่หลังจากได้สมาชิกครบแล้ว พวกเขาก็ออกสตูดิโออัลบั้มใหม่ ในชื่อว่า Believe เปิดตัวด้วยซิงเกิ้ลแรกกับเพลง “ขอบฟ้า” ได้รับความสำเร็จเป็นอย่างดี และมีอีกหลายเพลงในอัลบั้มที่ได้รับความนิยม เช่น “ความรักทำให้คนตาบอด” “พูดในใจ” “คนที่ถูกรัก” และเพลงได้มีแขกรับเชิญพิเศษ “แอ๊ด คาราบาว” ในเพลง “ความเชื่อ” ยังมีเพลงอื่นๆ ที่นิยมอีก อาทิ “ห้ามใจ” “รักก็เป็นอย่างนี้”
อัลบั้ม Save My Life (พ.ศ. 2550) เพลงเปิดตัวเพลงแรกของสตูดิโออัลบั้มนี้ คือเพลง “ยาพิษ” เมื่อออกสู่ผู้ฟัง ก็ได้รับการตอบรับไม่น้อย เนื่องจากเนื้อหาและความหนักหน่วงทางดนตรีที่เพิ่มขึ้นมาก (มีดนตรีแนว Alternative ให้เห็นอย่างเด่นชัด) อาจจะรู้สึกได้ว่าในสตูดิโออัลบั้มนี้ แนวทางดนตรีของทางวงได้มีการเปลี่ยนแนวไป โดยเพลงอื่นๆในอัลบั้มที่เป็นที่นิยมก็มีหลายๆเพลงเช่น ‘ยิ่งรู้ยิ่งไม่เข้าใจ,อกหัก,นาฬิกาตาย’ ในอัลบั้มนี้ ตูนได้แต่งเพลงเองสองเพลงคือเพลง แค่หลับตา ซึ่งเพลงนี้ตูนได้ร้องคู่กับปนัดดา เรืองวุฒิ และเพลงขอบคุณน้ำตา และอีกเพลงที่ตูนแต่งเพลงร่วมกับ ขจรเดช พรมรักษา หรือ กบ Big Ass โปรดิวเซอร์ก็คือเพลง ยาพิษ และเป็นเกียรติของวง ที่เพลง เสี้ยววินาที ถูกใช้เป็นเพลงประกอบโฆษณา 24thSea Games 2007 Information Center Nakhon Ratchasima THAILAND
อัลบั้ม Project “PLAY” (พ.ศ. 2552) เป็น อัลบั้มพิเศษของทาง Gmm Grammy ที่จัดขึ้นมาเพื่อฉลอง 25 Gmm Grammy โดยอัลบั้มนี้จะอยู่ในหมวดของ Rock โดยให้แต่ละศิลปินได้เลือกเพลงเก่าของตำนานของ Gmm Grammy มา Cover ใหม่ ให้เป็นแนวของศิลปินเอง โดยทางวงได้เลือกเพลง เสียดาย ของ ธงไชย แมคอินไตย์
อัลบั้ม คราม (พ.ศ. 2553) สตูดิโออัลบั้ม ลำดับที่ 5 ของบอดี้แสลม หลังจากที่ ตูน นักร้องนำได้ลาสิกขาบทออกมา โดยการเปิดตัวซิงเกิ้ลใหม่ในสตูดิโออัลบั้มนี้ เพลง “คราม” ซึ่งมาพร้อมกับความแปลกใหม่ ในการใช้ซินธิไซเซอร์ ผสมลงไปในเพลงด้วย ตามด้วยซิงเกิ้ลที่ 2 อย่างเพลง“ความรัก” ซึ่งกลายเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมสูงสุดของอัลบั้มนี้ และมียอดการดาวน์โหลดสูงสุด ต่อมาในช่วงกลางปี ก็ได้ปล่อยเพลง “คิดฮอด” เพลงที่สร้างความแปลกใหม่ให้วงการเพลงร็อกไทย ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่ทางวง ได้นำเอาทำนองแบบหมอลำเข้ามาผสมในเพลงด้วย โดยได้เชิญ ศิริพร อำไพพงษ์ มาช่วยกันแต่งเนื้อใส่ในเพลงร็อกสไตล์โมเดิร์นที่มีกลิ่นอายของหมอลำจากพวกเค้า สร้างกระแสให้เพลงนี้เป็นที่พูดถึงมากในชุดนี้ก็ว่าได้ และยังมีเพลงในอัลบั้มที่เป็นที่นิยม อย่าง “เปราะบาง” และ “แสงสุดท้าย”
สมาชิกของวง
นักร้อง-นักดนตรี
  • อาทิวราห์ คงมาลัย (ตูน) – ร้องนำ,กีตาร์
  • ธนดล ช้างเสวก (ปิ๊ด) – เบส, คอรัส
  • ธนชัย ตันตระกูล (ยอด) – กีตาร์
  • สุชัฒติ จั่นอี๊ด (ชัช) – กลอง (อัลบั้มที่ 1 และ 2 เป็นมือกลองแบ็คอัพ และตั้งแต่อัลบั้มที่ 3 จนถึงปัจจุบัน ได้ร่วมเป็นสมาชิกของวง)
  • โอม เปล่งขำ (โอม) – คีย์บอร์ด (คีย์บอร์ดในอัลบั้ม 4 และ 5 พาทของดนตรีมีอิเล็กทรอนิกส์เยอะขึ้นจึงได้ชวนมาร่วมงานเป็นแบ็คด้วย)

Buddha Bless

mon-zond-Buddha-Bless
บุดด้า เบลส (อังกฤษ: Buddha Bless) หรือ พระพุทธเจ้าอวยพร จากกลุ่มก้านคอคลับ ประกอบด้วยสมาชิก อุ๋ย–นที เอกวิจิตร, เอ็ม–กิตติพงษ์ คำสาตร์ และโต้ง–สุรนันต์ ชุ่มธาราธร มีแนวเพลงเป็นเร้กเก้แดนซ์ฮอลล์ มีสัญลักษณ์ประจำตัวที่นอกจากจะเป็นไฟเขียว ไฟแดง ไฟเหลือง ด้วยเนื้อหาที่อิงธรรมะช่วยส่งเสริมสร้างสรรค์สังคมด้วยหลักคำสอนในพระพุทธศาสนา สภาองค์กรพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยจึงมอบรางวัล “ต้นโพธิ์ทอง” ให้แก่สามหนุ่ม โดยเพลงที่ทำให้ได้รับรางวัลคือ ‘ใจเย็น’ ‘ลำยอง’ ‘ชิงหมาเกิด’ และ ‘ยาเสพติด’
ประวัติ
ทั้ง 3 คนเริ่มพบกัน เริ่มจาก อุ๋ยกับโต้งคือสองจากห้าสมาชิก AYM ทำเพลงฮิปฮอปใต้ดิน แต่ตอนหลังแยกตัวออกมา โดยอุ๋ยเล่าว่า "ตอนแรกผมอยู่เอวายเอ็ม มีท้อป ที่ตอนนี้ทำดับเบิ้ลซิกส์ทูเป็นตัวตั้งตัวตี เราทำเพลงกันเองที่บ้าน วันหนึ่งท้อปเขาขึ้นไปร้องฟรีไมค์ที่ผับ พี่โจ้ (โจอี้ บอย) เห็นก็ชวนพวกเรามาร่วมงาน" ในอัลบั้มชุดนี้ทั้งสามคนช่วยกันแต่งเนื้อ โดยมีสไปดามังกี้ (เมธี ขวัญบุญจัน) เป็นโปรดิวเซอร์และทำดนตรีให้ มีเพลงดังอย่าง Fire,ชิงหมาเกิด และลำยองเป็นต้น
บุดด้า เบลสยังมีผลงานร่วมกับศิลปินอื่นอย่าง ซาซ่า เสนาหอย และยังมีผลงานรวมในอัลบั้ม ก้านคอคลับ 2 มีเพลงดังอย่าง Bump Boom Boom หลังจากนั้นมีผลงานอัลบั้มชุดที่ 2 ที่ชื่อ กัด มันส์ ดุ มีเพลงเปิดตัวคือ "ดุ๊กดิ๊ก" อัลบั้มนี้นี้ กุ๊ยอุ๋ย รับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ และทำดนตรีรวมไปถึงเขียนเนื้อร้องเองเกือบทั้งหมด โดยสมาชิกที่เหลือโก๋เอ็ม และ เก๋าโต้ง ยังคงรับหน้าที่ช่วยกันเขียนเนื้อร้องเช่นเดิม
สมาชิกวง
อุ๋ย 
อุ๋ย หรือกุ้ยอุ๋ย คือ อดีตเซลขายรถที่หันหลังจากงานขาย เพื่อหันหน้าโกยประสบการณ์ตามฝัน เคยฝากผลงานเพลงให้ได้เห็นหน้าคาดตากันมาบ้างแล้ว จากพระเอกมิวสิกวิดีโอ เพลง “ ไม่ใช่ผู้ชาย” ของดูบาดู และยังฝากผลงานเสียงในการ Featuring ให้กับศิลปิน สิงห์เหนือเสือใต้ และส้ม อมราอีกด้วย
เอ็ม 
เอ็ม หรือ โก๋เอ็ม ทำงานเกี่ยวกับศิลปะที่เจ้าตัวบอกว่าส่วนใหญ่คือการเพ้นต์กำแพงตามงานจ้างหรืออีเวนต์ที่ต้องการบรรยากาศแบบฮิปฮอปซีน เคยฝากเสียงร้องไว้ในอัลบั้มของ ส้ม อมราแล้วด้วยเช่นกัน
โต้ง 
โต้งหรือเก๋าโต้งคือ หนุ่มโปรดิวเซอร์และพิธีกรยูบีซี มีความเก๋าเฉพาะตัวทางด้านศิลปะป้องกันตัว เคยเป็นอาจารย์สอนเทควันโด ปัจจุบันสอนคาโปเอร่า(ศิลปะป้องกันตัวแขนงหนึ่ง) ด้วย มีดีกรีเป็นถึงแชมป์เทควันโดเกาะเหนือของนิวซีแลนด์ และเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งชมรมคาโปเอร่า แห่งประเทศไทย
ผลงานอัลบั้มที่ผ่านมา
อัลบั้มเพลง
  • ไฟเขียว ไฟแดง
  • กัด มันส์ ดุ
  • ปักตะไคร้
  • Buddha Bless You
เพลงประกอบละคร/ภาพยนตร์
  • ผู้ใหญ่ลีกับนางมา (พี่ผู้ใหญ่)
  • จีจ้า ดื้อสวยดุ (ยังไหว)
งานแสดง
  • หลวงพี่เท่ง 3 รุ่นฮาเขย่าโลก
  • กองพันครึกครื้น ท.ทหารคึกคัก
  • หลวงพี่เท่ง 2 รุ่นฮาร่ำรวย

25 hours

25 hours
“25 hours” (ทเวนตี้ไฟว์ อาวเวอร์ส)
สังกัด: บีลีฟ เรคคอร์ด (Believe Records)
แนวดนตรี: โมเดิร์นร๊อค (Modern Rock)

สมาชิกในวง:
“แหลม” สมพล รุ่งพาณิชย์ (ร้องนำ)
“โฟร์” ประทีป สิริอิสสระนันท์ (กีต้าร์)
“ปู๋” ปิยะวัฒน์ มีเครือ (กีตาร์)
“บัง” เอกศิริ กำบังภัย (เบส)
“จ๊อบ” กฤตพงษ์ สกุลนามอเนก (กลอง)

“25 hours” การรวมกันของคนดนตรี ที่มีสไตล์แตกต่างกัน ผสมผสานจนเกิดเป็นแนวดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์ของวง ด้วยดนตรีเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเมื่อมีเวลาว่างจากงานประจำที่ต่างก็อยู่เบื้องหลังบทเพลงดีๆมากมายก็มาร่วมกัน สร้างงานดนตรีในสไตล์ของตัวเอง

“25 hours” คือ ชั่วโมงที่ 25 ซึ่งแล้วแต่ผู้คนจะใส่ความหมายลงไป ในความเป็นจริงเวลาตลอดทั้งวันถูกจับจองด้วยกิจกรรมประจำวันมากมาย แต่หากมีอีกสักหนึ่งชั่วโมงที่ 25 เป็นเวลาที่จะใส่สิ่งที่เรารักที่จะทำ ก็สามารถเปลี่ยนให้วันนั้นเป็นวันที่มีความหมาย

และสำหรับชั่วโมงที่ 25 ของพวกเขาคือ การสร้างสรรค์ดนตรี การเขียนเพลงจาก 25 hours จะบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาต่างๆ ของชีวิต ทั้งสุขและทุกข์ เหงาหรือสนุกสนาน

ซึ่งทุกเรื่องราวนั้นล้วนเป็นจุดเริ่มที่สำคัญ ในการสร้างงานเพลงในแบบของ 25 hours ให้ผู้ฟังมีดนตรีของพวกเขา เข้าไปอยู่ในชั่วโมงที่ 25 ของทุกคน

อัลบั้นเต็ม: 25 hours

Single 1 เพลง วันดีดี (Thing’s Beautiful)
Single 2 เพลง สัญญา
Single 3 เพลง ถามจันทร์
Single 4 เพลง ทำได้เพียง
Single 5 เพลง ในวันที่เขาต้องไป


หลังจากที่ปล่อยซิงเกิลอย่าง “ถามจันทร์” ที่ทำให้แฟนเพลงได้รู้สึกถึงความอบอุ่นในแบบ 25 hours กันไปแล้ว คราวนี้ ซิงเกิลใหม่ของ 25 hours “ทำได้เพียง” จะพูดถึงความรู้สึกที่หลงเหลืออยู่ หลังจากที่ช่วงเวลาความรักได้ผ่านพ้นไปช่วงเวลาหลังจากที่บทบาทของความรักได้ยุติลง ความรู้สึกของเราอาจจะมีแต่เพียงความเจ็บปวด ความโกรธ ความเสียใจ แต่เมื่อเวลาได้พ้นผ่าน จนบาดแผลในจิตใจได้สมานจนหายดี ตอนนั้นเองที่จะทำให้เราได้มองความรักที่ผ่านพ้นอย่างเข้าใจ และความรู้สึกเดียวที่หลงเหลืออยู่ในตอนนั้น คือ ความคิดถึง...เท่านั้นเอง

Paradox

PARADOX มอบความสุขส่งท้ายปี วางแผงอัลบั้มใหม่ “Daydreamer”1 ประวัติวง พาราด็อกซ์ (Paradox)
พาราด็อกซ์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2537 โดย อิทธิพงศ์ กฤดากร ณ อยุธยา หรือ ต้า (ร้องนำ/กีต้าร์) ซึ่งเป็นนิสิตจากคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีความคิดที่จะตั้งวงดนตรีเพื่อร่วมกิจกรรมภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในฐานะนักศึกษาปีที่ 1 จึงได้ชวน จักรพงศ์ สิริริน หรือ สอง (เบส) เข้ามาร่วมวง โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากวงโมเดิร์นด็อก ซึ่งเป็นวงดนตรีแนวอัลเทอร์เนทีฟที่มีชื่อเสียงอีกวงหนึ่ง ทั้งสองคนได้ร่วมกันแต่งเพลงแนวลูกทุ่งชื่อเพลง “โรงหนังเก่า” ขึ้นเป็นเพลงแรก ต่อมาก็ได้ พรภัฏ ชีวีวัฒน์ หรือ โน้ต นิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้ามาร่วมวงในตำแหน่งมือกลอง
พาราด็อกซ์ เป็นวงดนตรีชาวไทย เริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ. 2537 โดยกลุ่มนิสิตจากคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นวงที่มีเอกลักษณ์ทางการแสดงสด โดยจะมีการแสดงประกอบการเล่นดนตรี เช่น พ่นไฟ ,สาดน้ำ ,โยนลูกโป่งใส่คนดู ซึ่งแสดงโดยฝ่ายในวงที่เรียกว่า “โจ๊กเกอร์-ว๊ากเกอร์” รับเชิญหลายคน โดย โจ๊กเกอร์-ว๊ากเกอร์หลักของทางวงคือ อ๊อฟ และ เก่ง จะทำหน้าที่ร้องประสานเสียงบนเวทีให้อีกด้วย
สมาชิก
อิทธิพงศ์ กฤดากร ณ อยุธยา (ต้า) ร้องนำ / กีตาร์
ขจัดภัย กาญจนาภา (บิ๊ก) กีตาร์
จักรพงศ์ สิริริน (สอง) เบส
เสรฐพร กฤดากร ณ อยุธยา (โจอี้) กลอง
ชาญณรงค์ วังเย็น (อ๊อฟ) ว๊ากเกอร์
นัทธา กมลรัตนกุล (เก่ง) โจ๊กเกอร์
อดีตสมาชิก
พรภัฏ ชีวีวัฒน์ (โน้ต) กลอง